MOVIE REVIEW AND STORYLINE: FURIOSA A MAD MAX SAGA

Movie Review and Storyline: Furiosa A Mad Max Saga

Movie Review and Storyline: Furiosa A Mad Max Saga

Blog Article

รีวิวหนัง Furiosa: A Mad Max Saga


Movie Review and Storyline: Furiosa A Mad Max Saga



ข้อมูลหนัง


ประเภท: แอคชัน / ผจญภัย / ระทึกขวัญ


ผู้กำกับ: จอร์จ มิลเลอร์


นำแสดงโดย: อันยา เทย์เลอร์-จอย, คริส เฮมสเวิร์ธ, ทอม เบิร์ก


ความยาว: 168 นาที


กำหนดฉายในไทย: 22 พฤษภาคม 2024


 


เรื่องย่อ


ภาพยนตร์เรื่อง Furiosa: A Mad Max Saga บอกเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของตัวละคร Furiosa ซึ่งในภาคนี้จะเจาะลึกถึงภูมิหลังของเธอ ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กจนถึงการกลายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งในจักรวาล Mad Max ดูหนัง เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้

 

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Furiosa (Anya Taylor-Joy) ถูกลักพาตัวตั้งแต่ยังเป็นเด็กจากเผ่า Green Place ที่เธอเติบโตขึ้นมา เธอถูกแยกจากครอบครัวและชุมชนที่เธอรู้จัก ซึ่งเป็นที่ที่เคยเป็นดินแดนสีเขียวอุดมสมบูรณ์ แต่ต่อมากลายเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง Furiosa ถูกขายให้กับ Warlord Dementus (Chris Hemsworth) ผู้เป็นเผด็จการที่โหดร้ายในโลกที่กำลังล่มสลายภายใต้การขาดแคลนทรัพยากรและการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

 

ในค่ายของ Dementus Furiosa ถูกบังคับให้เป็นทาส โดยใช้ชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมของเหล่าผู้ปกครองและทหารที่อยู่ภายใต้คำสั่งของ Dementus เธอได้เรียนรู้การเอาตัวรอดในโลกที่ทุกคนต่างหันหลังให้กับมนุษยธรรม

 

อย่างไรก็ตาม Furiosa ไม่เคยละทิ้งความหวังในการหาทางหลบหนีและกลับไปยัง Green Place ที่เคยเป็นบ้านของเธอ เรื่องราวของเธอในภาพยนตร์นี้จึงเน้นไปที่การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ การหาทางรอดพ้นจากเงื้อมมือของ Dementus รวมถึงการรวมตัวกับผู้ที่มีความหวังเหมือนกันในการลุกขึ้นต่อต้านอำนาจที่โหดร้าย

 

ตลอดการเดินทาง Furiosa ได้พบกับพันธมิตรหลายคนในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน รวมถึงตัวละครลึกลับที่มีอิทธิพลต่อเส้นทางการต่อสู้ของเธอ ในขณะเดียวกันเธอต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากทั้งภายในและภายนอก ทั้งการต่อสู้กับกองทัพของ Dementus และการพยายามหาหนทางกลับไปยังดินแดนที่เธอเคยรัก

 

ขณะเดียวกัน Warlord Dementus เองก็กำลังวางแผนขยายอำนาจของเขาไปยังส่วนอื่นๆ ของโลกที่พังทลาย ซึ่งทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างกองทัพที่มีการใช้อาวุธหนัก ยานพาหนะที่ดัดแปลง และการต่อสู้ที่ดุเดือด Furiosa จึงต้องใช้ทุกความสามารถของเธอในการเอาชนะศัตรู ไม่ว่าจะเป็นการขับรถอย่างรวดเร็ว การวางแผนที่ชาญฉลาด หรือแม้กระทั่งการลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองในสนามรบ

 

Furiosa: A Mad Max Saga ยังสานต่อธีมของความหวังและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในโลกที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเหลือให้ยึดถือ Furiosa เป็นตัวแทนของความแข็งแกร่งและความไม่ยอมแพ้ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สิ้นหวังที่สุดก็ตาม

 

ในที่สุด Furiosa ก็ต้องเผชิญหน้ากับ Dementus ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นการตัดสินชะตากรรมของเธอและเสรีภาพของคนที่ติดอยู่ในกองทัพของเขา การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการล้างแค้นเพื่อความสูญเสียในอดีต แต่ยังเป็นการปลดปล่อยตัวเองและโลกใบนี้จากความโหดเหี้ยมของผู้ปกครองเผด็จการ

 

Furiosa: A Mad Max Saga จบลงด้วยการที่ Furiosa ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านและความหวังใหม่ของผู้คนในโลกที่ล่มสลาย ขณะที่เธอยังคงต่อสู้เพื่อสร้างชีวิตใหม่และหาทางรอดสำหรับตัวเองและผู้ที่เธอรัก



ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


หลังจากรับชม Furiosa: A Mad Max Saga ความรู้สึกที่ได้คือความตื่นเต้นและทึ่งกับโลกที่ล่มสลายแต่เต็มไปด้วยสีสันและความดุเดือดที่ภาพยนตร์ได้สร้างขึ้น ตัวหนังเต็มไปด้วยแอ็กชันที่ไม่มีวันหยุด ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา ฉากการต่อสู้ที่เข้มข้นและการไล่ล่าบนยานพาหนะที่เร้าใจสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างมาก

 

สิ่งที่โดดเด่นคือการนำเสนอ Furiosa ที่มีมิติและความลึกในตัวละครมากกว่าที่เคยเห็นใน Mad Max: Fury Road ภาพยนตร์ทำให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครจากผู้หญิงที่ถูกลิดรอนเสรีภาพจนกลายเป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง ซึ่ง Anya Taylor-Joy ทำหน้าที่สื่ออารมณ์ได้อย่างน่าทึ่ง เธอแสดงความแข็งแกร่งแต่ก็ยังสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดภายในใจได้อย่างละเอียดอ่อน ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครของเธออย่างลึกซึ้ง

 

นอกจากนี้ การออกแบบฉาก การใช้สีและองค์ประกอบทางศิลป์ต่างๆ ทำให้โลกของ Mad Max ยังคงดูอลังการและไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ที่ผสมผสานการใช้เทคนิค CGI และการถ่ายทำจริงได้อย่างลงตัว ทั้งยานพาหนะที่ดูแปลกตาและสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นและทรายเพิ่มความตึงเครียดให้กับการไล่ล่าได้อย่างมาก

 

ส่วนที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือการนำเสนอวายร้ายในเรื่อง โดยเฉพาะตัวละคร Warlord Dementus (Chris Hemsworth) ที่เป็นตัวร้ายที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เขามีความโหดเหี้ยมแต่ในขณะเดียวกันก็มีความซับซ้อนที่ทำให้เขาเป็นตัวละครที่น่าสนใจ การปะทะกันระหว่าง Furiosa และ Dementus ทำให้เกิดความตึงเครียดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเข้าถึงความตื่นเต้นของหนัง

 

แน่นอนว่าในแง่งานสร้างยังต้องยกนิ้วให้เหมือนเคย Furiosa: A Mad Max Saga เหมือนเป็นการสานต่อสิ่งที่ภาค Fury Road เคยได้กรุยทางเอาไว้แบบเป๊ะ ๆ หลายองค์ประกอบก็น่าจะเป็นสิ่งที่เราเคยได้เห็นมาจากหนังเรื่องที่แล้วเป็นส่วนใหญ่ โดยมันถูกนำมาแต่งเติมและต่อเติมขยายจินตนาการออกไปอีก ที่ต้องยอมรับงานการแอคชันที่มาเพื่อเอาใจแฟนหนังโดยเฉพาะ ก็ยังเป็นจุดที่ทำได้ดีและทำได้ถึง แทบจะทุก ๆ ซีนเลยทีเดียว

 

ถึงแอบเสียดายหน่อย ๆ ตรงที่ความโดดเด่นที่เคยทำเอาไว้ได้ดีจา Fury Road ไม่ได้ถูกเน้นย้ำมากนักในภาคนี้ นั่นก็คือการประพันธ์เพลงประกอบในหนัง แม้ว่าหนังจะยังคงได้ ทอม ฮอลเคนบอร์ก หรือ Junkie XL กลับมาร่วมงานอีกครั้ง แต้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาตรฐานจากภาคที่แล้วทำไว้ได้ยอดเยี่ยม เมื่อกลับมาต่อเติมในภาคนี้ มันดันกลายเป็นเพียงแค่การแตะ ๆ แบบผิวเผิน และเพลงไม่ได้ทำออกมาได้เด่นแบบที่เคยเป็น ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ 2u-hd.com โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก ได้แล้ววันนี้



#ดูหนัง #FuriosaAMadMaxSaga #รีวิวหนัง #MovieReview


 
กลับด้านบน

Report this page